ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน โคตรนายด่าน…จอมหนึบปราสาทสายฟ้า

เหมือนตายแล้วเกิดใหม่จริงๆ สำหรับ “พี่แชมป์” ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน นายด่านจอมเก๋า ผู้รักษาประตูมาดนิ่งของ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นที่รักของเหล่าแฟนบอล GU12 ที่ล่าสุดมีชื่อกลับมาติดทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทยอีกครั้ง ในการลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกรอบสุดท้ายโซนเอเชีย

พูดกันตามหลักความเป็นจริง ก่อนฤดูกาล 2017 จะเริ่มขึ้น หากเดินไปบอกใครว่า ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน จะกลับมาติดทีมชาติไทยอีกครั้ง กี่คนกันที่จะเชื่อ คงมีแต่คนด่าว่า “บ้า เอาอะไรมาพูด..!!” แต่เมื่อฤดูกาล 2017 เปิดฉากขึ้น ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน มะพร้าวห้าวแห่งค่ายปราสาทสายฟ้า ก็ได้ทำให้ทุกคนเห็นแล้วว่า เขานั้นมีดีแค่ไหน แม้อายุจะเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่ฝีมือ และความเก๋าไม่ได้เป็นสองรองใครเลย

ฤดูกาลนี้ลงสนามในลีกไปแล้ว 25 เกม รักษาคลีนชีทได้ 14 เกม และเพิ่งเสียไปเพียง 17 ประตูเท่านั้น ทำให้ทีมยังคงเป็นจ่าฝูงของลีก และนั่นเองจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ถึงได้หวนกลับมาใส่ชุดที่มีธงไตรรงค์อีกครั้ง

แต่ใครจะรู้บ้างว่าสถิติที่ว่ามาด้านบนนั้นยังไม่ใช่สถิติที่ดีที่สุดของ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน และเชื่อว่าน้อยคนนักจะทราบว่า ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน คือยอดผู้รักษาประตูของวงการฟุตบอลลีกเมืองไทย เพราะอะไรนะหรือ ก็เพราะว่า ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน นั้น เป็นเจ้าของสถิติไม่เสียประตูในลีกติดต่อกันนานที่สุด ถึง 2 อันดับ จาก 5 อันดับ

คืออันดับที่ 1 ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เมื่อปี 2554 ณ เวลานั้นเฝ้าเสาให้ทีม บุรีรัมย์ พีอีเอ ไม่เสียประตูรวม 815 นาที ตั้งแต่ 27 กุมภาพันธ์ 2554 (เสียประตูในนาทีที่ 37 ให้กับเพื่อนตำรวจ) จากนั้นก็ไม่เสียประตูให้ใครอีกเลยจนถึง วันที่ 1 พฤษภาคม 2554 (เสียประตูในนาทีที่ 58 ให้กับอาร์มี่ ยูไนเต็ด (ทหารบก) รวมแล้ว ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ไม่เสียประตูยาวนานถึง 8 เกม กับอีก 95 นาที (การนับเวลามาจากบันทึกรายงานผู้ตัดสิน)

ส่วนอีกอันดับคือ อันดับที่ 4 เมื่อปี 2557 ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) ไม่เสียประตูยาวนานถึง 571 นาที เมื่อเป็นเช่นนี้แฟนบอลคงหายสงสัยแล้วว่าทำไม ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ถึงได้เป็นโคตรนายด่าน…จอมหนึบปราสาทสายฟ้า

ฉบับนี้เราจะมาพูดคุยกับสุดยอดผู้รักษาประตู “แชมป์” ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน กันว่า จากวันแรก จนถึงวันนี้ เขา และทีมได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง

Q : พี่แชมป์ช่วยแนะนำตัวให้แฟน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รุ่นใหม่รู้จักหน่อย ?

A : สวัสดีครับ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ครับ ผมเป็นคนโคราช อยู่อำเภอสูงเนิน ย้ายมาอยู่กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ปีแรกที่ทีมเริ่มทำเลยครับ ตอนนี้รวมๆ แล้วก็ประมาณ 8 ปี ครับ

Q : พี่แชมป์ เป็นผู้รักษาประตูที่อยู่กับทีมมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเป็น บุรีรัมย์ พีอีเอ จากวันแรกที่เข้ามาจนถึงวันนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ?

A : ก็มีเปลี่ยนไปเยอะมากเลยนะครับ แฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีเพิ่มเยอะขึ้นมากๆ แล้วในตอนนี้ทีมของเราก็มีครบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทั้งสนามแข่งขันที่ได้มาตรฐานโลก แคมป์เก็บตัวที่เป็นมาตรฐานอาชีพ สนามซ้อมที่ดี และเครื่องไม้เครื่องมือการฝึกซ้อมที่ทันสมัย ซึ่งต้องบอกเลยว่kสมบูรณ์แบบกว่าตอนปีแรกเยอะมากครับ

Q : เส้นทางการเป็นผู้รักษาประตู เป็นมาอย่างไร แล้วทำไมถึงได้มาเล่นตำแหน่งนี้ ?

A : ตอนแรกผมเป็นผู้เล่นมาก่อน แล้วพ่อก็เปลี่ยนมาฝึกให้เป็นผู้รักษาประตูตอนอายุ 12 ครับ จากนั้นก็เล่นเป็นประตูเรื่อยมาโดยมีพ่อของผมเป็นโค้ชให้มาตลอดครับ

Q : การเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู มีความกดดันมากไหม ?

A : การเล่นเป็นผู้รักษาประตู แน่นอนว่ามันกดดันมากอยู่แล้ว เพราะจะพลาดไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว ฉะนั้น เราจึงต้องฝึกฝนอย่างหนัก ที่เลือกเป็นผู้รักษาประตูนั้น เพราะว่ามันคือตำแหน่งที่สำคัญมากที่สุดในสนามตำแหน่งหนึ่ง และที่สำคัญพ่อผมฝึกมาครับ (หัวเราะ)

Q : ทุกครั้งที่รู้สึกกดดันหรือไม่มีสมาธิคุณคิดถึงอะไร และมีวิธีขจัดมันอย่างไร ?

A : ถ้าเรารู้สึกกดดันมากๆ เราก็ต้องเล่นอย่างรอบคอบมากขึ้นครับ

Q : มีโอกาสได้กลับมารับใช้ทีมชาติไทยอีกครั้ง ทุกแมตช์ที่เล่นมันมีความหมายกับคุณอย่างไร ?

A : ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าความฝันของนักกีฬาทุกคน คือการได้ติดทีมชาติ การมีธงไตรรงค์ติดที่หน้าอกซ้าย ซึ่งผมเองก็ได้มีโอกาสติดทีมชาติหลายครั้ง แต่เมื่อใดผมได้มีโอกาสที่จะรับใช้ชาติ ผมก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ซึ่งผมว่ามันเป็นเกียรติสูงสุดแล้วที่ได้รับใช้ชาติ

Q : นักเตะคนไหนที่คุณคิดว่าน่ากลัวที่สุดในการป้องกันประตู ?

A : นักเตะคนไหนที่คิดว่าน่ากลัวเหรอครับ (ทำท่าคิด) ผมก็ไม่ได้กลัวใครเลยครับ ผมพยายามจะปกป้อง และป้องกันหน้าบ้านให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้อยู่แล้วครับ

Q : ทราบมาว่าเคยได้รับโอกาสไปฝึกซ้อมกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในตอนนั้นรู้สึกอย่างไรบ้าง และไดhอะไรกลับมาจากการไปฝึกซ้อมครั้งนั้น ?

A : ใช่ครับ เคยได้รับโอกาสให้ไปฝึกกับ เลสเตอร์ ซิตี้ มาครับ ก็ต้องขอขอบคุณท่านประธานสโมสร คุณเนวิน ชิดชอบ คุณกรุณา ชิดชอบ เเละคุณทัดเทพ พิทักษ์พูลสิน ที่ได้ให้โอกาสผมได้ไปฝึกอยู่ที่นั่นประมาณ 3 เดือน ก็ได้เห็นทีมในยุโรปเขาฝึกซ้อมกันอย่างไรในทุกๆ วัน ได้ประสบการณ์และได้แนวทางเพื่อกลับมาใช้ในการเล่น ซึ่งเป็นประโยชน์ สำหรับผมมาก วิชาพวกนั้นผมก็ได้เอามาถ่ายทอดให้กับน้องๆ ด้วย

Q : คุณมีใครเป็นต้นแบบในการเล่นฟุตบอล เพราะอะไร ?

A : ต้นแบบของผม คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก จานลุยจิ บุฟฟ่อน ครับ เพราะว่าเขาแข็งแกร่ง สุขุม และมีความเก๋าในตัว จะเห็นได้ว่าถึงแม้อายุมากแล้ว แต่ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ก็ยังรักษาสภาพร่างกายได้ดี นี่แหละแบบอย่างของความเป็นมืออาชีพ

Q : มีส่วนช่วยในทีมอย่างไรบ้าง ในการให้คำแนะนำน้องๆ เพราะว่าเราก็อยู่กับทีมมานาน ?

A : ก็จะคอยแนะนำเรื่องแนวทางให้น้องๆ ครับ ว่าในสนามสถานการณ์แบบนี้ควรจะทำอย่างไร ประมาณไหนครับ

Q : มีอะไรอยากจะฝากถึงแฟน GU12  ?

A : อยากฝากแฟนบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ให้ช่วยมาเชียร์ และเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยครับ พวกเราจะพยายามทำงานกันอย่างหนัก เพื่อให้ได้แชมป์ทุกแชมป์มาฝากแฟนๆ ในปีนี้เรามีลุ้นยาวๆ และหวังว่าทุกคนจะมีความสุขเมื่อจบฤดูกาลครับ

ภาพ - ข้อมูลจาก : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แมตช์เดย์ 2017 ฉบับที่ 14