ผลฟุตบอล โตโยต้า ไทยลีก 2017

วันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2560

ชลบุรี เอฟซี 1-2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

สนาม : ชลบุรี สเตเดียม

ประตู : 1-0 เรนัน มาร์เกวส (จุดโทษ) น.14, 1-1 ดิโอโก หลุยส์ ซานโต (จุดโทษ) น.64, 1-2 ดิโอโก หลุยส์ ซานโต น.77

การแข่งขันฟุตบอล โตโยต้า ไทยลีก 2017 เกมสุดท้าย เมื่อวันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2560 “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่คว้าแชมป์ไปครองแล้ว และเป็นแชมป์ไทยลีก 5 สมัย ยกพลออกไปเยือนสนามชลบุรี สเตเดียม ของ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ยอดทีมแห่งภาคตะวันออก

เริ่มเกมครึ่งเวลาแรก ชลบุรี เอฟซี เป็นฝ่ายเขี่ยบอลเล่นก่อนบุกจากขวาไปซ้าย  ส่วน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกจากซ้ายมาขวาของสนาม

นาทีที่ 5 ปราสาทสายฟ้า มาได้ลุ้นทักทายก่อนเมื่อ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ได้บอลในเขตโทษก่อนจะจ่ายย้อนหลังออกมาให้ รัตนากร ใหม่คามิ ได้ปั่นด้วยเท้าขวาจากนอกกรอบเขตโทษบอลลอยเหินข้ามคานออกไป

นาทีที่ 6 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด น่าจะได้ประตูออกนำที่สุดเมื่อ สุภโชค สารชาติ ได้กระชากบอลเข้าเขตโทษล็อกหลอก ชนินทร์ แซ่เอียะ ก่อนจะพยายามยิงมุมแคบบอลแฉลบผู้เล่นชลบุรี เอฟซี ชนเสาออกหลังไป

GOAL!!! นาทีที่ 14 ชลบุรี เอฟซี ก็มาได้ลูกโทษเมื่อ อันเดรส ตูเญซ ไปตัดบอลใส่ นูรูล ศรียานเก็ม ล้มลงในเขตโทษ ฑีธิชัย นวลจันทร์ ผู้ตัดสินไม่รอช้าเป่าเป็นจุดโทษทันที และเป็น เรนัน มาร์เกวส สังหารไม่พลาด ชลบุรี เอฟซี ขึ้นนำ 1-0

นาทีที่ 25 ชลบุรี เอฟซี บุกอีกครั้ง และเกือบได้ประตูทิ้งห่างเป็น 2-0 เมื่อ เรนัน มาร์เกวส ได้บอลจาก นูรูล ศรียานเก็ม ทางฝั่งขวาก่อนครอสบอลไปให้ ปริ๊นซ์ อัมปองชาห์ ได้จักรยานอากาศในกรอบเขตโทษแต่โดนบอลไม่เต็มเท้าหลุดออกเสาสองไป

นาทีที่ 31 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พลาดได้ประตูตีเสมออย่างเหลือเชื่อ สุภโชค สารชาติ จ่ายให้ทะลุช่องให้ แจ็คสัน อเวลิโน โคเอลโญ หลุดเดี่ยวไปในกรอบเขตโทษก่อนปั่นด้วยซ้ายติดเซฟ ชนินทร์ แซ่เอียะ

จากนั้นทั้ง 2 ทีม ก็เปิดเกมบุกโหมมใส่กันอย่างสนุก แต่ก็ยังไม่มีประตูเพิ่ม ทำให้จบครึ่งเวลาแรก ชลบุรี เอฟซี เจ้าถิ่น ยังคงนำ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อยู่ที่สกอร์ 1-0

กลับมาสู้ก้นต่อครึ่งเวลาหลัง นาทีที่ 47 ชลบุรี เอฟซี มาได้ฟรีคิกระยะน่ารักน่าลุ้น นูรูล ศรียานเก็ม เปิดบอลเข้าไปที่เสาสองไม่มีเพื่อนเข้าถึง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ออกมารับบอลไว้ได้

นาทีที่ 52 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษ แจ็คสัน อเวลิโน โคเอลโญ เขี่ยให้ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ได้แตะหนึ่งจังหวะแล้วซัดบอลเหินข้ามคานออกหลังไป

GOAL!!! นาทีที่ 64 ปราสาทสายฟ้า ก็มาจุดโทษบ้างเมื่อ ธัชนนท์ นคราวงศ์ ไปตัดเกมใส่ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ก่อนที่จะเป็น ดิโอโก ลุกมารับหน้าที่สังหารเองไม่พลาด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตามตีเสมอได้เป็น 1-1

นาทีที่ 66 ปราสาทสายฟ้า เกือบที่จะได้ประตูแซงนำเมื่อ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ยกบอลข้ามหัวผู้เล่น ชลบุรี เอฟซี ให้ สุภโชค สารชาติ ได้กระชากเข้าเขตโทษก่อนจะตัดสินใจจ่ายไปที่เสาขวามือหวังจะให้ แจ็คสัน อเวลิโน โคเอลโญ เข้าชาร์จ แต่ทว่าบอลแรงไปนิด จาจ้า เข้าไปไม่ถึงบอล

นาทีที่ 72 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาได้ลุ้นประตูอีกครั้งเมื่อ สุภโชค สารชาติ ได้บอลทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะตัดสินใจปั่นโค้งไปที่เสาสอง บอลโค้งทำท่าจะเสียบเสา แต่ทว่า ชนินทร์ แซ่เอียะ พุ่งไปปัดบอลออกหลังไว้ได้อย่างฉิวเฉียด

GOAL!!! นาทีที่ 77 ยังคงเป็นโอกาสของผู้มาเยือน แจ็คสัน อเวลิโน โคเอลโญ เปิดบอลจากทางริมเส้นฝั่งขวาเข้าไปกลางเขตโทษ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต โขกเหน่งๆ ชนินทร์ แซ่เอียะ เซฟออกมาเข้าทาง ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ล้มตัวยิงบอลเข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แซงนำ 2-1 กลายเป็นประตูที่ 2 ของ ดิโอโก ในเกมนี้ และเป็นประตูที่ 90 ที่เข้าตัวทำให้กับทีมได้ในทุกรายการอย่างเป็นทางการ

จากนั้นทั้ง 2 ทีมก็เปิดเกมแลกกันสนุก แต่ทว่าก็ไม่มีประตูเพิ่ม ทำให้จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แซงชนะ ชลบุรี เอฟซี ไปได้ 2-1 คว้า 3 คะแนนไปครอง พร้อมกับสร้างสถิติเป็นแชมป์ไทยลีกด้วยการมีคะแนนมากที่สุดที่ 86 คะแนน

รายชื่อผู้เล่นทั้ง 2 ทีม

ชลบุรี เอฟซี : ชนินทร์ แซ่เอียะ (ผู้รักษาประตู), นพนนท์ คชพลายุกต์ (C) (ภานุพงศ์ พลซา น.57), โฟเด ไดกิเต, กฤษดา กาแมน, ชยพัทธ์ กิจพงษ์ศรีธาดา, ธัชนนท์ นคราวงศ์ (ภาณุเดช ใหม่วงค์ น.71), เรียวทาโร นากาโนะ, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, นูรูล ศรียานเก็ม, ปริ๊นซ์ อัมปองชาห์ (เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ น.78), เรนัน มาร์เกวส

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู), พรรษา เหมวิบูลย์, อันเดรส ตูเญซ, ชิติพัทธ์ แทนกลาง (สุเชาว์ นุชนุ่ม น.23), กรกช วิริยอุดมศิริ (บดินทร์ ผาลา น.46), นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, รัตนากร ใหม่คามิ, จักรพันธ์ แก้วพรม (C), สุภโชค สารชาติ (ศุภชัย ใจเด็ด น.90), ดิโอโก หลุยส์ ซานโต, แจ็คสัน อเวลิโน โคเอลโญ