ยี่ห้อ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แล้วแทบจะการันตีได้ว่านักเตะส่วนใหญ่กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ของทีม เป็นนักเตะรุ่นใหม่ไฟแรง อายุน้อยๆ กันแทบจะทั้งนั้น ซึ่งนั่นก็คือแผนการของ นายใหญ่ปราสาทสายฟ้า เนวิน ชิดชอบ ที่หวังจะพัฒนาแข้งรุ่นใหม่ ให้ขึ้นมาทัดเทียมกับนักเตะรุ่นเก๋าในตำนานให้ได้ และหนึ่งในแผนการนี้ก็คือการสร้าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อะคาเดมี กองทัพลูกเจี๊ยบสายฟ้า ที่ซุ่มฝึกฝนบรรดานักเตะดาวรุ่งจากทั่วฟ้าเมืองไทย ให้ขึ้นมาเฉิดฉายทัดเทียมกับรุ่นพี่ได้ในอนาคต

ด้วยเหตุนี้เอง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในปัจจุบันจึงได้รวมบรรดาดาวรุ่งเจ๋งๆ มากมายจากทั่วฟ้าเมืองไทยไว้ในทีม วันนี้เราจะพาท่านไปพูดคุยกับ “เช็ค” สุภโชค สารชาติ แข้งสารพัดประโยชน์ ดาวรุ่งสุดฮอต ที่เป็นเจ้าของสถิติ นักเตะอายุน้อยที่สุดที่สามารถซัดแฮตทริกในไทยลีกได้

มาถึงเวลานี้เราสังเกตว่า “เช็ค” มีหลายอย่างที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นความสุขุม หรือความคิดความอ่านที่โตขึ้น รวมไปถึงร่างกายที่ดูแข็งแกร่งมากขึ้นด้วย

Q : แนะนำตัวให้แฟนได้รู้จักกันหน่อย ?

A : ผมเช็ค สุภโชค สารชาติ เบอร์ 19 เล่นตำแหน่งกองกลางตัวรุก ผมเป็นคนอำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ครับ แต่มาอยู่ บุรีรัมย์ ได้ 5 ปีแล้ว ตั้งแต่อายุ 13 ปี จนตอนนี้จะ 19 แล้วครับ ก็อยู่มาตั้งแต่เป็นอะคาเดมี จนตอนนี้ได้ขึ้นมาเล่นในทีมใหญ่แล้ว

Q : เล่าให้ฟังหน่อย มาเป็นอะคาเดมีได้อย่างไร ?

A : ผมเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่ยังเด็กๆ แล้วครับ ถ้าจำไม่ผิดก็เล่นมา ตั้งแต่ 9 ขวบ เตะกันเล่นๆ กับเพื่อนๆ แถวบ้านครับ จนพอทราบว่า เปิดคัดนักเตะอะคาเดมี ก็มาคัดกับเขาด้วย ตามเพื่อนๆ  มา 


(ไม่ได้เรียนฟุตบอลมาก่อนเลยเหรอ ?) ไม่ได้เรียนครับ เตะเล่นที่บ้านนี่แหละ

(แล้วทำไมเขาถึงเลือกเรา พอจะรู้ไหม ?) ตอนนั้นผมยังอายุน้อยครับ แล้วมาคัดตัวข้ามรุ่นด้วย ผมอายุ 13 ปี แต่มาคัดตัวของรุ่น 16 ปี แล้วก็ทำประตูได้ด้วย ทางโค้ชคงเห็นความสามารถก็เลยเลือกเรา 

Q : รู้สึกอย่างไรบ้างกับผลงานของทีมในปีที่แล้ว ?

A : ตอบจากใจเลยก็รู้สึกผิดหวังนิดหน่อยนะครับ เพราะเราเคยได้แชมป์มาทุกปี บางปีได้ทุกถ้วย ไม่แพ้เลยสักนัด แต่ในปีที่แล้วก็ต้อง ยอมรับว่าเรานั้นโชคร้ายจริงๆ ที่เราได้รับบาดเจ็บกันไปเยอะ ตั้งแต่ต้นฤดูกาล แต่ปีนี้ผมมั่นใจว่าเราจะกลับมา STRIKEBACK เอาแชมป์ ของเรากลับมาไว้ที่บ้านได้แน่นอนครับ

Q : มีหลายทีมที่ปีนี้พัฒนาขึ้นมา มีทีมไหนที่เราคิดว่าน่ากลัวบ้าง ?

A : เชียงรายครับ เขาซื้อตัวดีๆ  เข้ามาเสริมทัพเยอะ แล้วผมว่าเกมรุกของเขาก็ดูดุดัน น่ากลัวดี

Q : ได้ขึ้นมาเล่นชุดใหญ่กี่ปีแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง ?

A : ขึ้นมาได้ปีกว่าๆ แล้วครับ ปีนี้ก็ปรับตัวได้ดีขึ้นกว่าปีก่อนๆ เยอะเลย

(ยังเกร็งอยู่ไหม ?) ตอนนี้ไม่เกร็งแล้วครับ เวลาซ้อม หรือเวลาลงแข่ง ก็รู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ผมจะรู้สึกเกร็งๆ ไม่กล้าเล่นเท่าไหร่

Q : ตอนนี้บุรีรัมย์เรามีทั้งทีมเอ ทีมบี ทำให้การแข่งขันในทีมสูงขึ้นรู้สึกอย่างไรบ้าง ?

A : ก็รู้สึกว่าเราต้องกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลาครับ ถ้าเราไม่ได้ลงสนาม กับทีมเอ เราก็ต้องไปลงเล่นให้กับทีมบี เพราะฉะนั้นเราก็ต้องแข่งกันโชว์ทักษะ โชว์ความสามารถ ความมุ่งมั่นให้มากกว่าคนอื่น เพื่อโอกาสที่จะได้ลงสนาม

(แล้วกดดันไหม ?) ก็กดดันพอสมควรนะครับ เพราะเราต้องแข่งกันทุกคน ต้องแสดงฝีมือให้โค้ช ให้พ่อเน (ประธานสโมสรเนวิน ชิดชอบ) เห็น

Q : การต้องไปเล่นให้กับทีมบี ทำให้เราเสียความมั่นใจบ้างไหม ?

A : ก็แล้วแต่คนนะครับ ผมยังไม่เคยเล่นให้กับทีมบี แต่ผมว่ามันก็เป็นสิ่งที่ดี และเป็นประโยชน์กับพวกเราทุกคน เพราะทีมที่มาเจอกับทีมบี เป็นทีมไม่ใหญ่มาก ก็จะเป็นโอกาสเรียกความมั่นใจให้กับเราด้วย

Q : รู้สึกไหมว่าปีนี้เราโตขึ้นมาก ?

A : ครับ ก็รู้ตัวอยู่ (หัวเราะ) ปีนี้รู้สึกว่าตัวเองนิ่งขึ้นไม่เหมือนปีแรกๆ สงสัยคงจะเริ่มเก๋าขึ้น (หัวเราะ) ตั้งสติได้ดีขึ้น ไม่ค่อยลนเหมือนแต่ก่อน แล้วก็รู้จักหาวิธีที่ลดความกดดันของตัวเองด้วย ว่างๆ ผมก็เล่นเกมบ้าง ดูหนังบ้าง อยู่ในห้องทั้งวันครับ

Q : ตอนนี้ยังอยู่กับอะคาเดมีอยู่หรือเปล่า ?

A : ปีนี้ย้ายแล้วครับ จากอะคาเดมี มาพักอยู่กับทีมใหญ่ แต่ก็อยู่ใกล้ๆ กันนั่นแหละครับ รั้วเดียวกัน

Q : เล่าให้ฟังหน่อย ชีวิตในแคมป์ของสโมสรเป็นอย่างไร ?

A : ก็คล้ายๆ ตอนที่มาอยู่กับอะคาเดมีนะครับ แต่มันจะมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่า มีอิสระมากกว่า ปกติ พี่ๆ คนอื่นๆ ถ้าไม่ซ้อมก็จะออกไปนั่งร้านกาแฟกันบ้าง ออกไปทานข้าวกันบ้าง แต่ผมกับเกม (รัตนากร ใหม่คามิ) เป็นรูมเมทกัน ไม่มีรถกันทั้งคู่เลย

(เวลาจะออกไปไหนทำอย่างไร ?) ก็ติดรถพี่ๆ เขาไปกันครับ แต่ไม่ว่าจะไปไหน 4 ทุ่มทุกคนต้องกลับมานอนที่แคมป์ ส่วนผมถ้าไม่มีรถออกไปทานข้าวข้างนอก ก็จะอาศัยทานข้าวกับเด็กๆ อะคาเดมี อาหารที่แคมป์อร่อยนะครับ โดยเฉพาะกระเพาะปลา ผมชอบที่สุด

Q : เคยคิดไหมว่าวันนั้นถ้าเราไม่ได้เข้ามาที่นี่ ตอนนี้หรือว่าอนาคตเราจะเป็นอย่างไร ?

A : ไม่เคยคิดนะ แต่ว่าที่บ้านผมมีนา ถ้าไม่ได้เป็นนักฟุตบอลผมก็คงจะทำการเกษตรแหละ หรือไม่ก็ไปช่วยที่บ้านขายปุ๋ยครับ ถือว่าโชคดีกับโอกาสที่ผมได้รับในวันนั้น ที่ให้ผมเข้ามาอยู่ในอะคาเดมี ผมถึงมีวันนี้ได้ ขอบคุณจริงๆ ครับ

Q : อยากฝากอะไรไปถึงแฟนบอลบ้าง ?

A : ผมขอบคุณอยู่ตลอดอยู่แล้วครับ และผมโตมากับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โตมากับเสียงเชียร์ของ GU12 ผมก็จะทำให้ดีที่สุด จะเอาทุกแชมป์กลับมาให้ได้ ฝากเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยครับ

ภาพ - ข้อมูลจาก : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แมตช์เดย์ 2017 ฉบับที่ 3