Q&A : พรรษา เหมวิบูลย์ ภูผาหินจอมแกร่ง ขวัญใจ GU12 คนใหม่

 

พรรษา เหมวิบูลย์ ภูผาหินจอมแกร่ง ขวัญใจ GU12 คนใหม่

           

ชั่วโมงนี้เชื่อเถอะว่าคงไม่มีแฟนบอลคนไหน ที่จะไม่รู้จักกองหลังร่างโย่ง จอมแกร่ง ขวัญใจคนใหม่ของวงการฟุตบอลไทย อย่าง พรรษา เหมวิบูลย์ ซึ่งแฟนบอลเมืองไทย น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเขานั้นเป็นใคร มาจากไหน และทำไมถึงมาติดทีมชาติชุดใหญ่ ครั้งแรกด้วยวัย 26 ปี

 

ฉบับนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ โย่ง พรรษา เหมวิบูลย์ให้มากขึ้น ในมุมที่หลายคนยังไม่รู้ เชื่อเถอะว่าแฟนบอลจะรักเขามากขึ้นแน่นอน

 

Q : แนะนำตัวให้แฟนๆ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รู้จักมากขึ้นหน่อย ?

A : ผม โย่ง พรรษา เหมวิบูลย์ อายุ 26 ปี สูง 190 ซม. หนัก 83 กก. ภูมิลำเนาจังหวัดจันทบุรีครับ เล่นตำแหน่งกองหลัง ที่ได้มาเล่นฟุตบอลคือว่าตอนเด็กๆ ชอบฟุตบอลมากครับ โรงเรียนวัดที่ผมเรียนตอนหลังเลิกเรียนก็จะมีพวกผู้ใหญ่แถวบ้านมาเตะบอลกันผมก็เลยชอบ เห็นเขาเล่นเราอยากเล่นเลยไปขอเขาเล่นครับ คุณพ่อ คุณแม่ก็สนับสนุนครับ

 

Q : เล่าเส้นทางชีวิตการเป็นนักฟุตบอล ตั้งแต่เด็กจนมาถึงตอนนี้ว่าเป็นยังไงบ้าง ?

A : ผมเล่นฟุตบอลตั้งแต่เด็กๆ ตอนมาเรียนมัธยมต้นที่โรงเรียนเบญจมานุสรณ์ จันทบุรี พอดีมันมีกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ซึ่งเขาเปิดคัดตัวนักบอล ผมก็เลยไปคัดเป็นตัวจังหวัดจันทบุรี ซึ่งตอนนั้นโค้ชก็คือคุณอิทธิกร เหมหงส์ หรือพ่อไข่ คนนี้คือเป็นคนที่ปั้นผมมาให้เติบโตในสายฟุตบอลเลยครับ

พ่อไข่ ก็เป็นคนขัดเกลา เป็นคนสอนผมให้เล่นฟุตบอล แล้วก็สอนให้มีทักษะ จนมีอยู่วันหนึ่งพ่อไข่ เขารู้จักกับโค้ชโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ก็เลยได้มีโอกาสไปอุ่นเครื่องกัน ลงทีมกัน ระหว่าง ทีมจังหวัดจันทบุรี กับ ทีมกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย หลังจากอุ่นเครื่องเสร็จโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ก็สนใจในตัวผมก็เลยเอาตัวผมไปเรียนที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เรียนฟรีคือเป็นโครงการช้างเผือกของโรงเรียน สนับสนุนนักฟุตบอลครับ ก็ได้อาจารย์จักราช หงส์ษา เป็นโค้ชให้ในตอนนั้น อาจารย์ก็ขัดเกลาแล้วก็สอนเราจนมีความสามารถที่ดีในระดับหนึ่ง ก็เลยทำให้ติดนักเรียนไทย อายุไม่เกิน 18 ปี ตอนอยู่ ม.6

หลังจากนั้นก็พอจบก็ได้เข้าโครงการช้างเผือก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โครงการพัฒนากีฬาฟุตบอล ก็คือเข้าไปเรียนฟรี เล่นฟุตบอลแล้วก็เรียน เรียนจุฬาฯ 5 ปี ในระหว่างที่เรียนนั้นก็คือประกอบกับเล่นฟุตบอลไปด้วย แล้วก็ได้เล่นฟุตบอลลีกกับ จามจุรี ยูไนเต็ด ของจุฬาฯ ประมาณ 3 ปี พอเรียนจบก็ย้ายไปอยู่ ทีโอที เอสซี กับ พี่สมชาย ทรัพย์เพิ่ม 2 ปี ตอนที่อยู่ ทีโอที 2 ปีก็เล่นบ้างไม่ได้เล่นบ้าง หลังจากนั้นก็ย้ายไปอยู่ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ในศึกดิวิชั่น 1 แล้วพอดีตอนนั้นทีมขอนแก่น เจอปัญหาถูกตัดสิทธิ์ บุรีรัมย์ ก็ติดต่อมาก็เลยมาอยู่กับ บุรีรัมย์ จนถึงทุกวันนี้ครับ

 

 

Q : ใครคือนักบอลในดวงใจ และแรงบันดาลใจในการเล่นฟุตบอลของคุณ ?

A : นักฟุตบอลในดวงใจก็คือ อภิวัฒน์ งั่วลำหิน ครับ ตอนนี้เล่นอยู่ ราชบุรี มิตรผล คนนี้คือรุ่นพี่ที่เรียนจุฬาฯ มาด้วยกันเขาเป็นไอดอลในดวงใจของผมทั้งในสนาม และนอกสนามคือเป็นต้นแบบที่ดีครับแล้วก็ดูแลผมเป็นอย่างดี พูดได้ว่าเป็นพี่รักผมเลยครับ

ส่วนแรงบันดาลใจในการเล่นฟุตบอลก็คือคุณพ่อ คุณแม่ พี่สาว พี่ชาย ครอบครัวผมชอบฟุตบอล โดยเฉพาะคุณพ่อ ชอบฟุตบอลมาก เขาอยากเล่น อยากเป็นนักฟุตบอลแต่คือสมัยนั้นไม่มีโอกาส เขาเลยส่งเสริมเราให้เล่นฟุตบอลให้รักฟุตบอล ตอนเด็กๆ คุณพ่อ คุณแม่ จะตามไปดูทุกสนาม คือส่งเสริมมาก เราก็เลยรู้สึกว่าเป็นแรงบันดาลใจ เวลาที่เล่นฟุตบอลแล้วเห็นหน้าพ่อกับแม่ผมรู้สึกได้ว่าเขามีความสุข และภาคภูมิใจในตัวผม ผมก็ภูมิใจครับ

 

Q : พอรู้ว่าติดทีมชาติ รู้สึกอย่างไร และบอกใครเป็นคนแรก ?

A : ตอนนั้นก็กำลังฟังอยู่นะครับ พอรู้ว่าติดแล้วก็โทรไปบอกคนรู้ใจคนแรกเลยครับ ก็รู้สึกดีใจครับที่ตอนเขาประกาศชื่อมาเป็น 1 ใน 35 แต่ก็ยังต้องไปเก็บตัวก่อนจะตัดตัวอีกครั้ง แต่รวมๆ แล้วก็รู้สึกดีใจครับ รู้สึกปลื้ม ดีใจครับ

 

 

Q : รู้สึกยังไงกับการเล่นให้ทีมชาติ มันแตกต่างจากการเล่นให้สโมสรอย่างไร ?

A : รู้สึกเหมือนกันมากกว่าครับ เพราะว่าทีมชาติ กับสโมสรถ้าผมได้รับโอกาสให้เป็นผู้เล่น 11 ตัวจริง ไม่ว่าจะเป็นสโมสรหรือทีมชาติก็ต้องทำหน้าที่ของผมให้เต็มที่ครับ เรามีวิธีการเล่นหรือว่ามีอะไร ยังไง เราต้องเค้น ต้องแสดงความสามารถออกมาให้ดีที่สุด โชว์ความสามารถออกมาให้หมดครับเพื่อที่จะให้สโมสรหรือทีมชาติประสบความสำเร็จก็คือการได้ชัยชนะ ไม่อยากให้แพ้ เต็มที่ทั้งในนามสโมสร และทีมชาติครับ รู้สึกดีใจมากที่ได้รับเกียรติทั้งในสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และในทีมชาติไทย ครับ

 

Q : เพิ่งย้ายมาอยู่ที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฤดูกาลนี้ ปรับตัวเข้ากับระบบของทีมได้หรือยัง ?

A : ตอนมาช่วงแรกๆ รู้สึกว่ายังปรับเข้ากับทีมไม่ได้ เข้ากับระบบการเล่นไม่ได้แต่ตอนนี้รู้สึกว่าปรับได้แล้วครับ ปรับเข้ากับระบบทีม ปรับเข้ากับสโมสรได้แล้ว ช่วงแรกๆ มันยังขาดๆ เกินๆ อยู่ ช่วงหลังก็ศึกษาไปเรื่อยๆ จนรู้ว่าระบบทีมเราต้องเล่นแบบนี้ ต้องการแบบนี้ อะไรประมาณนี้ครับ ตอนนี้เข้ากับระบบทีม และเพื่อนร่วมทีมได้อย่างดีครับ

 

Q : คุณสนิทกับใครมากที่สุดในทีม ทำไมถึงมาสนิทกันได้ ?

A : จริงๆ ก็คุยกับทุกคนเลยนะครับ รู้จักทุกคน แต่ที่จะสนิทที่สุดก็น่าจะเป็นน้องดิว ภานุพงศ์ พลซา, น้องอาร์ม ศุภชัย ใจเด็ด แล้วก็น้องโดม บดินทร์ ผาลา ที่สนิทก็คือจะไปกินกาแฟด้วยกันบ่อย จะเล่นจะอำกันบ่อยๆ ก็คือสนิทคุยกันได้ทุกเรื่องประมาณนี้ครับ น้องดิว ก็เคยเล่นที่ทีมทีโอทีด้วย รู้จักกันมาก่อนหน้านี้แล้ว ส่วน อาร์ม กับ โดม เป็นน้องที่น่ารักที่มาเจอกันที่บุรีรัมย์ครับ กินข้าวกินกาแฟด้วยกันบ่อยก็เลยสนิทกันครับ

 

 

Q : รู้สึกอย่างไรกับเมืองบุรีรัมย์ และแฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ?

A : เมืองบุรีรัมย์ เป็นเมืองที่น่าอยู่ครับ และเป็นเมืองที่สงบไม่พลุกพล่าน แต่ก็มีครบครันเหมือนกัน มีห้างสรรพสินค้า มีของกินมากมาย มีร้านกาแฟ แล้วก็มีสถานที่ท่องเที่ยวก็คือ สนามไอ-โมบาย สเตเดียม, บุรีรัมย์ คาสเซิลโดยส่วนตัวแล้วผมชอบครับ ส่วนแฟนบอลบุรีรัมย์ ผมรู้สึกว่าเป็นแฟนบอลที่รักทีมบุรีรัมย์มากๆ ผมเข้ามาทีแรกก็รู้สึกดี รู้สึกประทับใจมาก เพราะว่าแฟนบอลให้การตอบรับเป็นอย่างดี อีกส่วนหนึ่งก็มีคนปลื้มชื่นชอบในตัวเรา เราก็เลยรู้สึกดี รู้สึกว่า เฮ้ย เราลงสนามไปแล้ว เราต้องทำให้เต็มที่เพื่อแฟนบอลทุกคน เวลาที่ผมลงสนามผมอยากจะทำผลงานให้มันออกมาดีที่สุด อยากเห็นรอยยิ้มของแฟนบอลทุกคนครับ ผมรู้สึกดีมากกับแฟนบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขอบคุณมากครับที่ให้การต้อนรับผมเป็นอย่างดีทุกคนเลยครับ

 

Q : คุณชอบอะไรมากที่สุดในจังหวัดบุรีรัมย์ ?

A : ผมชอบทุกอย่างที่เป็นบุรีรัมย์ครับ โดยเฉพาะทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ผมชอบมาก ผมรักมากครับ

 

Q : ทำไมถึงเลือกใส่เสื้อหมายเลข 3 มันมีความหมายกับคุณยังไง ? 

A : จริงๆ แล้วตอนที่มาแรกๆ ผมไม่ได้เลือกเบอร์ 3 ครับ เลือกเบอร์อื่นไว้แต่ว่าพอดีมีคนใส่แล้ว ทางสโมสรเลยได้เลือกเบอร์ 3 ให้เราใส่ครับ จริงๆ ผมใส่เบอร์อะไรก็ได้หมด

 

 

Q : ตอนนี้เมื่อเทียบกับตอนที่ย้ายมาบุรีรัมย์ใหม่ๆ คุณมีชื่อเสียงขึ้นมากเลย คุณรู้สึกถึงความแตกต่างนั้นไหม แล้วมันส่งผลกับชีวิตหรือเปล่า รับมือกับมันยังไง ?

A : ก็มีความแตกต่างมากครับ ตอนผมมาใหม่ๆ แฟนบอลบุรีรัมย์ ไม่รู้จักผมเลย หรืออาจจะมีน้อยท่านที่อาจจะรู้จัก ว่าเราเป็นใคร มาจากไหน แล้วก็มีโอกาสลงสนามทำผลงานออกมาค่อนข้างดีในระดับหนึ่ง ก็เริ่มมีคนรู้จัก เริ่มมีคนขอถ่ายรูปบ้าง แตกต่างจากที่แต่ก่อนไม่มีใครรู้จักเลย เวลาไปไหนมาไหนก็มีคนขอถ่ายรูป รู้สึกดีที่มีการตอบรับที่ดีครับถามว่ารับมือยังไง โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกดีใจมากครับเวลาที่มีคนมาทักหรือมีคนขอถ่ายรูป หรือว่าแม้กระทั่งมีคนเข้ามาคอมเม้นต์ในไอจี หรือในเฟซบุ๊ค ผมรู้สึกดี รู้สึกยินดีมากครับ

 

Q : นอกจากฟุตบอลแล้ว คุณมีความชอบในเรื่องอื่นๆ อีกไหม งานอดิเรกของคุณคืออะไร ได้ข่าวว่าคุณมีรถเวสป้าด้วย มันคือหนึ่งในความชอบของคุณหรือเปล่า ?

A : นอกจากฟุตบอลแล้ว ก็ชอบเล่นกีต้าร์ครับ ชอบมาก เวลาว่างๆ ผมจะมานั่งเล่นกีต้าร์คนเดียว แล้วก็ร้องเพลงบ้าๆ บอๆไปคนเดียวนะครับ นอกจากกีต้าร์แล้วผมก็ยังมีรถคลาสสิค รักในความคลาสสิค ความวินเทจครับ ผมชอบ Vespa, BMW, Volkswagen ตอนนี้ก็ยังขับอยู่ทั้ง 3 คันนะครับ เป็นสิ่งที่ผมรักมาก นอกจากฟุตบอลแล้ว ผมรักรถมากครับ

 

 

Q : กองหน้าที่รับมือยากที่สุดในไทยลีกคือใคร ?

A : ผมคิดว่าเป็น ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ครับ ผมโชคดีมากที่ได้อยู่ทีมเดียวกับเขาเลยไม่ได้เจอกับเขาครับ ผมคิดว่าเขาเป็นกองหน้าที่ดีที่สุดในไทยลีกเลยครับ

 

Q : คุณตั้งเป้าหมายสำหรับตัวเองในทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดไว้อย่างไรบ้าง ?

A : ก็อยากที่จะเป็นส่วนหนึ่งในทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อยากพาบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ทุกแชมป์อย่างที่เราตั้งใจกันไว้ครับ แล้วถ้ามีโอกาสได้ลงสนามก็จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดครับ จะพยายามไม่เสียประตูเลยครับ

 

Q : มีอะไรอยากจะฝากถึงแฟนๆ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไหม ?

A : ก็อยากจะขอขอบคุณแฟนบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดทุกท่าน ที่เป็นกำลังใจให้ผมสนับสนุนผมมาโดยตลอด ผมรู้สึกดีรู้สึกรักแฟนบอลทุกคนมากครับ ผมจะพยายามทำหน้าที่ในสนามให้ดีที่สุด เพื่อที่จะได้เห็นรอยยิ้มของแฟนบอลทุกท่านผมรักแฟนบอลทุกคน ขอบคุณครับ

 

 

ภาพ - ข้อมูลจาก : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แมตช์เดย์ 2017 ฉบับที่ 11

Tag : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด,ปราสาทสายฟ้า,พรรษา เหมวิบูลย์,บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แมตช์เดย์ 2017 3 กรกฎาคม 2560

LATEST NEWS

เว็บไซต์ Buriramunited.com มีการใช้งานคุกกี้สําหรับการวิเคราะห์เชิงสถิติหรือใน กิจกรรมอื่นของเว็บไซต์ เพื่อใช้ในการปรับปรุงคุณภาพการให้บริการของเว็บไซต์ Buriramunited.com ต่อไป ศึกษารายละเอียดนโยบายคุกกี้ได้ที่ [อ่านเพิ่มเติม]